99 Pencil in hand: เมื่อชีวิตเฉียดความตาย |คำบอกเล่าจาก Ric Elias หนึ่งในผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก

เมื่อชีวิตเฉียดความตาย |คำบอกเล่าจาก Ric Elias หนึ่งในผู้โดยสารที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก

0 Comments

“ใครจะรู้สึกว่าชีวิตนี้ของเราล้วนดำเนินไปยังจุดสิ้นสุดอันเป็นสิ่งชั่วนิรันดร์ หากไม่เคยมีโอกาสได้เผชิญมันสักครั้งแล้วรอดออกมา”...

ความหมายของ “ชีวิต” ของผู้คนในสังคมดูแตกต่างและเลื่อนลอยมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคสมัยที่เราดำเนินอยู่บนโลกของการแข่งขัน การตอบรับข่าวสาร เชคอีเมล์ แชท หรือการอัพเดตโซเชี่ยลมีเดียอย่างไร้จุดหมาย หรือเพียงแค่ต้องการสนองความรู้สึกลึกๆ ที่คิดว่ามันเป็นความสุข

แต่ในขณะที่วินาทีชีวิตเลื่อนไหลไปอย่างไร้ประโยชน์ คนส่วนใหญ่ไม่เคยตระหนักเลยว่าชีวิตมีค่าและไม่ควรปล่อยเวลาให้เสียไป หากใครได้ลองดูรายการ TED TALK ในตอนที่กล่าวถึงชายผู้ชื่อว่า Ric Elias ผู้โดยสารแถวหน้าสุดของเครื่องบินที่กำลังบินออกจากตัวมหานครแมนฮัตตัน แต่ทว่ามันกำลังเบนทิศจมดิ่งลงสู่แม่น้ำ Hudson River อันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนิวยอร์ค คำบอกเล่ามากมายที่เขาได้เผชิญในขณะที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองจะตายในไม่กี่นาทีข้างหน้าไม่ใช่ “ความกลัว” แต่เป็นความรู้สึกบางอย่างที่เขารู้สึกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาได้ใช้เวลาไปอย่างไร้ค่ากับสิ่งที่ไร้ค่าจริงๆ

การเตรียมพร้อมรับกับความตายในช่วงขณะนั้นทำให้ Ric Elias ไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นเท่าใดนัก หากเพียงสิ่งที่เขาต้องการคือการย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาด ความอยากเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ แต่หาใช่ทุกคนจะสามารถทำมันได้ทั้งหมดดังคำกล่าวที่ว่า No one is perfect

ความเศร้าเริ่มเกาะกุมหัวใจมากกว่าจะเป็นความตื่นตระหนก เรื่องราวในอดีตย้อนเข้ามาในสมองไม่ต่างจากผู้คนที่กำลังอยู่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ภาพของคนสำคัญ คนที่รัก และคนที่ควรใช้เวลาร่วมด้วยให้มากที่สุด กลายเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทำมันให้ดีได้อีกต่อไป

เสียงเครื่องยนต์บนเครื่องบินดับลง มีเพียงแต่ความเงียบงันของผู้โดยสารที่ไม่อาจจะบอกกล่าวความรู้สึกของตัวเองผ่านห้วงเวลาอันแสนยากลำบากนี่ได้ ในขณะที่เครื่องบินดำดิ่งลงสู่หุบเหวนรก ควันไฟคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ และเวลาชีวิตเริ่มนับถอยหลังอย่างเด่นชัด “ชีวิตได้จบสิ้นแล้ว” คำกล่าวหนึ่งของเขาที่สัมผัสได้ ณ ขณะนั้น เป็นความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยาย แม้ในรายการที่เขากำลังเล่าเรื่องจะดูตลกขบขันด้วยการแทรกความเฮฮาเข้าไปให้กับผู้ชม แต่ใครเล่าจะรับรู้ได้ถึงความพรั่นพรึ่งเกินอธิบายในเสี้ยววินาทีเฉียดตาย

สิ่งที่ Ric Elias ได้เรียนรู้หลังจากโกงความตายมาได้
โชคยังเข้าข้างที่วิญญาณและร่างของเขายังไม่ถูกพรากออกจากกัน ในวันนี้ทุกสิ่งในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเพียงเสี้ยวนาที ราวกับการก่อกำเนิดใหม่ของระบบความเชื่อมสัมพันธ์ภายในสมอง สิ่งแรกที่เขากล่าว คือทุกคนล้วนมีสิ่งที่อยากทำมากมายก่อนจะตาย แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาผัดผ่อนออกไปเพียงเพราะคิดว่าเรายังมีเวลามากพอที่จะทำมัน แต่สำหรับ Ric Elias เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยที่เขาอยากกลับไปทำ เขาจะลงมือทำมันเดี๋ยวนั้นในทันที โดยไม่ปล่อยทิ้งเอาไว้ เขามีรั้วที่ต้องซ่อมมัน อยากมีประสบการณ์ที่ไม่เคยมี เขาจะกลับบ้านไปเปิดไวน์ที่บ่มทิ้งเอาไว้หลายปี เพราะก่อนหน้านี้เขาจะเปิดมันก็ต่อเมื่อมีแขกเรื่อเดินทางมาร่วมสังสรรค์ด้วยเท่านั้น

”ผมไม่อยากผัดผ่อนอะไรในชีวิตออกไปอีกแล้ว” นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตระหนัก…

ในเสี้ยววินาทีของการเปลี่ยนผ่านชีวิตออกมาจากความตายได้ มันเปลี่ยนมุมมองของเขาไปได้ในทันที ขณะที่เครื่องบินกำลังเฉียดลงไปบนสะพานก่อนจะลงสู่แม่น้ำ เขาคิดแต่เพียงว่าเวลาที่ผ่านมาที่พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด บางอย่างเป็นสิ่งที่น่าเสียดายและไม่ควรค่าแก่การเอาเวลาไปใช้กับมัน

มีคนสำคัญที่เขาอยากจะใช้ชีวิตด้วย อยากทำให้พวกเขามีความสุข โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง เขา ภรรยา ลูก และเพื่อนฝูง ซึ่งบางครั้งอาจจะมีความขัดแย้งและเกิดปัญหากันในชีวิตอยู่บ้าง แต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาได้ทำลายกำแพงความคิดในแง่ลบออกไปจนหมดสิ้น ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างดูราบรื่นและคุ้มค่า ชีวิตของเขาดูสวยงามมากขึ้น

Ric Elias ไม่ได้มีปากเสียงกับภรรยาของเขามานานกว่า 2 ปีหลังจากนั้น มีแต่คำพูดที่ดีระหว่างกัน เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของเวลาที่กล่าวโทษกันไปมาก็ดูเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งจนมันไม่คู่ควรที่จะให้เสียไปกับความขุ่นมัวของจิตใจ เขาพยายามที่จะไม่เป็นฝ่ายถูกเสมอไป และยอมรับความเข้าใจของอีกฝ่ายให้มากขึ้น เขาเลือกที่จะมีความสุขและมอบเวลาให้กับคนที่ต้องการเขามากกว่าการมอบเวลาให้กับตัวเอง เขาจดจ้องอยู่กับการแสดงที่แสนธรรมดาของลูกสาวในวัยที่กำลังเจริญเติบโต พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อท่วมออกมาราวกับเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตที่เขาได้เห็น

สำหรับหลายคนในงานหากไม่ผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก็คงไม่มีวันเข้าใจว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีค่าที่สุดในชีวิต หรือจะกล่าวได้ว่าทุกช่วงที่เรายังดำเนินอยู่บนโลก มีลมหายใจ มีคนที่เรารัก และคนที่เราปฏิสัมพันธ์ร่วมด้วยล้วนเป็นห้วงเวลาที่แสนวิเศษและควรใช้มันอย่างละเมียดละไมให้มากที่สุดไปกับความสุข ปล่อยวางความทุกข์และอีโก้ที่ไร้ค่าออกไปให้หมด เพียงเท่านี้ความตายก็จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าเศร้าและเราก็พร้อมจะเผชิญกับมันได้อย่างไม่รู้สึกผิด

ท้ายสุดของคำกล่าวเขารู้สึกว่าตัวเองได้รับของขวัญที่แสนวิเศษนั่นก็คือการได้กลับมามีชีวิตรอดอีกครั้งหนึ่ง และได้รับรู้ว่าคุณค่าของเวลานั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้หากมันผิดพลาดไปแล้ว เพราะฉะนั้นจงเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียตั้งแต่วันนั้น “จงทำในสิ่งที่ควรทำ” และมอบรอยยิ้มให้กับคนที่คุณรักให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้

ติดตามเรื่องของเขาได้ผ่านรายการ TED :
Ric Elias: 3 things I learned while my plane crashed - TED Talk - April 2011